เมนู

ของที่อาเจียนออกไป 1 เป็นผู้ไม่สามารถจะชี้แจงไห้คนไข้เห็นแจ้ง สมาทาน
อาจหาญ ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาในกาลทุกเมื่อ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้
พยาบาลไข้ที่ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ไม่ควรพยาบาลไข้.

องค์ของภิกษุผู้เข้าใจพยาบาล 5 อย่าง


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พยาบาลไข้ที่ประกอบองค์ 5 ควร
พยาบาลไข้ คือเป็นผู้สามารถประกอบยา 1 รู้จักของแสลง และไม่แสลง คือ
กันของแสลงออก นำของไม่แสลงเข้าไปไห้ 1 มีจิตเมตตาพยาบาลไข้ ไม่เห็น
แก่อามิส 1 เป็นผู้ไม่เกลียดที่จะนำอุจจาระ ปัสสาวะ เขฬะ หรือของที่อาเจียน
ออกไปเสีย 1 เป็นผู้สามารถที่จะชี้แจงให้คนไข้ เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ
ร่าเริง ด้วยธรรมีกถา ในกาลทุกเมื่อ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพยาบาลไข้
ที่ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล ควรพยาบาลไข้.

เรื่องให้บาตรจีวรของผู้ถึงมรณะภาพแก่คิลานุปัฏฐาก


[167] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุ 2 รูปเดินทางไกลไปในโกศลชนบท
ได้เข้าไปอยู่ในอาวาสแห่งหนึ่ง บรรดาภิกษุ 2 รูปนั้น รูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุ
เหล่านั้นจึงได้ปรึกษาตกลงกันดังนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
สรรเสริญการพยาบาลภิกษุอาพาธ ผิฉะนั้น พวกเราจงพยาบาลภิกษุรูปนี้เถิด
แล้วพากันพยาบาลภิกษุอาพาธนั้น เธออันภิกษุเหล่านั้นพยาบาลอยู่ได้ถึงมรณะ-
ภาพ ภิกษุเหล่านั้นจึงถือบาตรจีวรของเธอไปพระนครสาวัตถี แล้วกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุถึง
มรณะภาพ สงฆ์เป็นเจ้าของบาตรจีวร แต่ภิกษุผู้พยาบาลไข้มีอุปการะมาก
เราอนุญาตให้สงฆ์มอบไตรจีวรและบาตร แก่ภิกษุผู้พยาบาลไข้.

วิธีให้


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลสงฆ์พึงให้ไตรจีวรและบาตรอย่างนี้ คือ ภิกษุ
ผู้พยาบาลไข้นั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า:-
ท่านเจ้าข้า ภิกษุมีชื่อนี้ถึงมรณภาพ นี้จีวรและบาตรของท่าน.
ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศ ให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรม
วาจา ว่าดังนี้ :-
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุมีซึ่งนี้ถึงมรณภาพ
นี้ไตรจีวร และบาตร ของเธอ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว
สงฆ์พึงให้ไตรจีวรและบาตรนี้ แก่ภิกษุพยาบาลไข้ นี้เป็นญัตติ.
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า ภิกษุมีชื่อนี้มรณภาพ
นี้ไตรจีวรและบาตรของเธอ สงฆ์ให้ไตรจีวรและบาตรนั้นแก่ภิกษุ
พยาบาลไข้ การให้ไตรจีวรและบาตรนี้ แก่ภิกษุผู้พยาบาลไข้ ชอบ
แก่ท่านผู้ใด ท่านผู้พึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่าน
ผู้นั้นพึงพูด.
สงฆ์ให้จีวรและบาตรนั้นแก่ภิกษุผู้พยาบาลไข้แล้ว ชอบแก่
สงฆ์ เขตุนั้นจึงนิ่ง ข้าเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้.


สามเณรถึงมรณภาพ


สมัยต่อมา สามเณรรูปหนึ่งถึงมรณภาพ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสามเณรถึง
มรณภาพ สงฆ์เป็นเจ้าของบาตรจีวร แก่ภิกษุผู้พยาบาลไข้มีอุปการะมาก เรา
อนุญาตให้สงฆ์มอบจีวรและบาตรให้ก็ภิกษุผู้พยาบาลไข้.